วิหารของวัดจองคา เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและตะวันตกคือส่วนหลังคาซ้อนเป็นชั้น หน้าบันประดับด้วยกระจกสีรูปต่างๆ เช่น กระต่าย นกยูง เป็นต้น นอกจากนี้ยังประดับลายไม้ฉลุตามส่วนต่างๆ ของหลังคา ตัวอาคารเป็นตึกคอนกรีตแบบอาคารยุคโคโลเนียล เสาไม้ประดับด้วยขดลวดสีทองเป็นลายเครือเถา
ลำปางได้ชื่อว่ามีวัดศิลปะพม่ามากที่สุดในประเทศไทย นับเนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองลำปางอันอุดมไปด้วยไม้สักจำนวนมหาศาล เป็นที่หมายปองของบริษัทค้าไม้ต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมดินแดนต่างๆรอบๆสยามประเทศอยู่ในขณะนั้น ได้เข้ามาขอสัมปทานค้าไม้จากราชสำนักสยามที่กรุงเทพฯ เข้าทำอุตสาหกรรมไม้ในเขตเมืองลำปาง
ในครั้งนั้นบริษัทค้าไม้ขนาดใหญ่สัญชาติอังกฤษได้สัมปทานไป จึงเข้ามาพร้อมแรงงานชาวพม่าที่ซึ่งอยู่ในการคุมครองของนายจ้างชาวอังกฤษซึ่งชำนาญในการทำไม้การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธรุกิจค้าไม้ของชาวพม่า ทำให้มีโอกาสสะสมทุนและกลายเป็นคหบดีที่ร่ำรวย ด้วยความศรัทธาในพุทธศาสนาอันแรงกล้า จึงสร้างวัดขึ้นในถิ่นที่ตนเองทำธุรกิจจุดเด่นของวัดพม่าที่เห็นชัดคือ สร้างด้วยไม้และแกะสลักอย่างละเอียดยิบ วัดพม่าที่น่าสนใจควรแวะเที่ยวชมก็คือวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม และวัดศรีชุม อ. เมืองลำปาง
ซุ้มประตูทางเดินจากวิหารไปหาพระธาตุและอุโบสถที่เป็นรูปแบบไทย คงจะสร้างขึ้นมาใหม่
ด้านข้างพระธาตุมีความพายามจะสร้างศาลาอะไรสักอย่างแต่ดูแล้ว น่าจะมีศรัทธาแรงบุญไม่มากพออีกทั้งไม่มีพระจะมาดูแล ใชสอยมีหลวงตาเจ้าอาวาสอยู่ท่านเดียวครับ
น่าเสียดายครับการดูแลรักษาคงไม่เต็มที่เลยดูหมองๆไปบ้างสำหรับส่วนลานรอบๆพระธาตุ
ผมไม่คุ้นดูไม่ออกว่าที่เห็นคือวิหารของวัดจองคำ เดินรอบๆและถ่ายภาพภายนอกหลายๆมุมมาให้ชม หลังใหญ่มากนะครับ สมัยก่อนคงมีพระพม่าเยอะแน่ๆ
หลังคาสวนนะครับ
บันไดทางขึ้นยิ่งสวยมีลวดลายปูนปั้นที่เสาด้วย
อลังการงานสร้างนะครับ
เสาประดับด้วยลวดโลหะสีทองขดเป็นลายเครือเถา ประดับกระจกสีสวยงาม ม่านและระเบียงโดยรอบทำด้วยแผ่นไม้ฉลุฝีมือประณีต
มาลำปางอย่าลืมแวะเยี่ยมชมนะครับ
หลวงพ่อใจดีกับพวกเรามากบอกให้ถ่ายภาพเยอะๆเอาไว้ให้คนอื่นได้ชม
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด มีลักษณะงดงามสร้างจากเมืองมัณฑะเลย์ สหภาพพม่า
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ประทาน ประจำวิหาร
เพดานที่ตกแต่งประดับสวยงามมากๆ
ใครสนใจพาลูกหลานไปดูเรียนรูประวัติศาสตร์กันนะครับ
หลวงตาใจดี
ไหว้พระ
วิหาร เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและตะวันตกคือส่วนหลังคาซ้อนเป็นชั้น หน้าบันประดับด้วยกระจกสีรูปต่างๆ เช่น กระต่าย นกยูง เป็นต้น นอกจากนี้ยังประดับลายไม้ฉลุตามส่วนต่างๆ ของหลังคา ตัวอาคารเป็นตึกคอนกรีตแบบอาคารยุคโคโลเนียล เสาไม้ประดับด้วยขดลวดสีทองเป็นลายเครือเถา
เทพพนมที่ส่วนหัวหายไป
บาดแผลที่บริเวณปลายลวดลายประดับเสาวิหาร มือดีหักเอาไปหมด ส่วนหัวเทวดาหายไปหมดเช่นกัน
สิงโตทั้งสองตัวบอกไว้เลยว่าตัวผู้ครับ ท่าทางจะหนังด้านท้ายลำตัวนะครับ อิอิ
ซุ้มประตูวัด
เจ้าน้องหมาสองตัวมีความนิ่งมากไม่ขยับไปไหนเมือตอนที่ผมจะเดินขึ้นวิหาร ในขณะที่อีกหลายตัวเห่าเสียงดังตามหลังเราตอนเข้ามาไกล้ตัววิหาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น